ก่อนการเดินทางครั้งนี้ เพื่อนคนหนึ่งชวนฉันไปเกาะตะลุเตา ฉันบอกว่า ไปไม่ได้เพราะฉันมีทริปไปปายอยู่แล้ว เพื่อนเลยถามฉันว่า ไปปายตอนนี้จะมีเสน่ห์ที่ไหน ฉันนิ่ง เพราะฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า เสน่ห์ของเมืองปาย อยู่ที่ไหน ก็ยังไม่เคยไปไง เลยต้องไปให้รู้ว่าเสน่ห์ของปายนั้นอยู่ที่ใด การเดินทางของฉันเริ่มต้นที่หมอชิต ตีตั๋วเชียงใหม่ หวังไปให้ทันสมาชิกที่ตั้งท่ารออยู่แล้วที่อาเขต แต่จนแล้วจนรอด ก็ต้องให้ชาวบ้านเค้ารอตั้งชั่วโมง ถึงอาเขตที่เชียงใหม่เกือบ 9 โมงเช้า ล้อหมุนต่อเพื่อไปเที่ยวตามโปรแกรมที่วางไว้ นั่นคือ......จะโกรธมั้ยหากฉันจะบอกว่า ฉันจำสถานที่ที่พวกเราแวะตามรายทางไม่ได้ก่อนหน้าที่จะถึงน้ำตกหมอกฟ้า เอาเป็นว่าบันทึกการเดินทางของฉันเริ่มจากน้ำตกหมอกฟ้าก็แล้วกันนะ ด้วยความที่ความจำนั้นสั้นเหลือเกิน จึงชอบขีดๆ เขียนๆ ไง เวลาเหงาๆ นึกถึงคราใดก็หยิบที่เขียนมานั่งอ่านและทบทวนเรื่องราวสักครั้งนึง
น้ำตกหมอกฟ้าตามที่ได้ข้อมูลมานั้น ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งของอุทยานฯ น้ำตกหมอกฟ้ามีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เป็นน้ำตกชั้นเดียว แต่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และมีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ตั้งอยู่บนถนนสายแม่มาลัย-ปาย กิโลเมตรที่ 20 และมีทางลูกรังเลี้ยวซ้ายเข้าไปน้ำตกอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ที่ชื่อหมอกฟ้าคงเป็นเพราะลักษณะของละอองน้ำตกที่กระเซ็น มองแล้วเหมือนหมอกยามเช้า สวยงามมาก ฉันประทับใจน้ำตกหมอกฟ้านะ เห็นแล้วก็นึกถึงฉากละครโรแมนติกที่พระเอกกับนางเอกไปติดเกาะกันสองคน ส่วนเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงต่อนั้นคงไม่ต้องอธิบาย ต่อจากน้ำตกหมอกฟ้า หากฉันจำไม่ผิด พวกเรายิงยาวไปจนถึง อช.ห้วยน้ำดังซึ่งเป็นที่พักแรมคืนแรก
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง สำหรับผู้ที่เดินทางจากเชียงใหม่ไปปาย ก่อนถึงปายนักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ ที่นี่มีทรัพยากรที่สมบูรณ์คล้ายเป็นของขวัญที่ธรรมชาติทักถอไว้ให้ จุดชมวิวห้วยน้ำดังหรือที่รู้จักกัน ดอยกิ่วลม จุดชมทะเลหมอกที่สวยงามยามอรุณรุ่ง ที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นผ่านไอหมอก อย่าบอกใครนะ ว่าฉันไปถึงห้วยน้ำดังแล้วแต่พลาดชมความงามของทะเลหมอก เพราะความหนาวเย็นเลยไม่อยากโผล่ศีรษะออกนอกเต็นท์ ในขณะที่เพื่อนร่วมแก๊งหลายคนได้สัมผัสบรรยากาศ ยามตะวันขึ้นผ่านไอหมอก
ก่อนถึงยามเช้าที่ห้วยน้ำดัง นั่นคือค่ำคืนที่สุดแสนโรแมนติก หลายต่อหลายคนมาอ่านคงว่าฉันเว่อร์มากไป แต่นั่นคือความจริง เพราะฉันได้นอนทอดกายา แอบอิงธรรมชาติ กับบรรยากาศเย็นยะเยือก แถมขับกล่อมด้วยสายลม และเสียงเพลง ที่ฟังดูแล้ว เหมือนตั้งใจประสานคีย์กันอย่างไพเราะเพราะพริ้ง และลงตัวมากๆ เสร็จสิ้นบรรยากาศโรแมนซ์ ที่ อช. ห้วยน้ำดัง ก็ถึงเวลาที่ฉันรอคอย นั่นคือการเดินทางสู่...ปาย.....
ปาย เมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา สูงตระหง่านเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด เมืองเล็กๆแห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆยามเช้า บรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม กับแสงแดดอุ่นๆ ที่ทอดผ่านม่านหมอกหนา แลเห็นต้นสนไม้ยืนต้นเมืองหนาวสูงใหญ่เป็นทิวแถวตามเชิงเขา วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ ปายได้ดึงดูดนักเดินทางรวมทั้งตัวฉันเองให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งนี้
ครั้นเมื่อมาถึงปายครั้งแรก รู้มั้ยว่าฉันหลงเสน่ห์เมืองเล็กๆ นี้เข้าอย่างจังเลยทีเดียว มีคนเคยบอกว่า หากใครได้มาปายแล้วครั้งหนึ่ง จะต้องได้มาอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน คนสองคนที่ฉันรู้จัก ก็ได้กลับมาเยือนปายเป็นครั้งที่สองแล้วเช่นกัน และฉันก็กำลังจะกลับไปเยือนปายอีกเป็นครั้งที่สอง บางทีอาจถึง 3, 4 , 5 เลยก็เป็นได้
ถ้าจะถามฉันว่า ติดอกติดใจอะไรนักหนาที่ปาย นอกจากเสน่ห์ของปายที่กล่าวมาแล้ว ฉันติดใจความสงบ วิถีชีวิตของคนเมืองปาย และความสันโดด หากฉันคิดที่จะหลีกลี้ผู้คนเมื่อไร ปายจะเป็นสถานที่แรกที่ฉันนึกถึงอย่างแน่นอนเลยทีเดียว
เขามาทำอะไรกันที่ปาย หากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่องแก่งลำน้ำปายน่าจะเป็นกิจกรรมต้นๆ รองลงไปก้อ...ขี่ช้าง เดินป่า ล่องแม่น้ำปาย และปั่นจักรยานชมเมืองปาย แช่น้ำแร่ท่ามกลางขุนเขาแห่งธรรมชาติ แต่สำหรับฉัน ขอเลือกขี่จักรยานเที่ยวและถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ดีกว่า
ตามข้อมูลนะ เส้นทางปั่นจักรยานสาย เชียงใหม่-แม่มาลัย-ปาย เป็นเส้นทางที่ท้าทายนักปั่นเสือภูเขา เส้นทางคดเคี้ยว เลาะเลี้ยวไปตามหุบเขา สองข้างทางรายล้อมไปด้วยพืชพรรณไม้และป่าเขาลำเนาไพร เขตติดต่อระหว่าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แวะชื่นชมทิวทัศน์อัน สวยงามของทะเลหมอกที่ ห้วยน้ำดัง จักรยานจะมาหาเช่าในอำเภอปาย ก็ได้ ซึ่งก็มีร้านจักรยานให้เช่าแก่นักท่องเที่ยวอยู่หลายร้าน
ตอนบ่ายแก่ๆ เกือบเย็น หลังจากเสี่ยงชีวิตปั่นจักรยาน Down Hill กันแล้ว พวกเราก็ปั่นจักรยานขึ้นไปนมัสการ เจดีย์พระธาตุแม่เย็น เป็นเจดีย์ที่สร้างสมัยใด ไม่ปรากฎ ตั้งอยู่บนเนินสูง และเมื่อขึ้นไปนมัสการ องค์พระธาตุแม่เย็น จะมองเห็นทิวทัศน์ ของอำเภอปายโดยทั่วถึง เป็นจุดสังเกต ของผู้โดยสารเครื่องบิน ว่าเข้าเขตอำเภอปายแล้ว….
เกือบลืมอีกที่ก่อนขึ้นพระธาตุแม่เย็น พวกเราแวะเที่ยวกันที่ น้ำตกหมอแปงก่อน เป็นน้ำตกขนาดกลาง อยู่ในบริเวณ หมู่บ้านหมอแปง ทางทิศเหนือของตัวอำเภอ ใช้เส้นทางสายปาย แม่ฮ่องสอน เส้นทางเป็นถนนคอนกรีต และเป็นถนนลูกรังในช่วงสุดท้ายที่จะถึงทางขึ้นน้ำตก เพื่อนหลายคนลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ฉันเชื่อแล้วว่า คนมีความสุขทำอะไรก็สนุกไปหมด ฉันเห็นเพื่อนๆ เล่นน้ำกันอย่างมีความสุข สนุกสนาน ทั้งที่น้ำนั้นมีน้อยมากๆ เกือบแห้งแล้วก็ว่าได้ ส่วนฉันเลือกที่จะนั่งเงียบๆ เขียนโปสการ์ด อย่างมีความสุขเช่นกัน
ยามเย็น ณ เมืองปายก่อนตะลุยราตรี เรามีความประทับใจร่วมกันนั่นก็คือการลอยโคม นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตฉันเชียวนะ ก็ต้องตั้งใจกันหน่อย ฉันอธิษฐานอะไรไป จำไม่ได้แล้ว แต่อยากบอกว่าประทับใจสุดๆ เลยกับการลอยโคมครั้งนี้ คงเป็นเพราะความสุขต่อเนื่องมาจากช่วงกลางวันนั่นแหละ
ยามราตรีที่ปาย มีเสน่ห์ไม่แพ้กลางวันเลย ร้านอาหารเล็กๆ เริ่มเปิดไฟสวยงามดูมีเสน่ห์อย่างมาก ถ้าเราจะสังเกตนะ ที่ปายไม่ว่าเวลาไหน ก็เงียบสงบตลอดเวลา ฉันชอบจัง ที่ปายมีร้านขายโปสการ์ดเท่ห์ๆ อยู่ร้าน สองร้าน ฉันประทับใจจังนึกแล้วก็อดแอบอิจฉาคนที่นี่ไม่ได้ เค้าคงมีความสุขกันทุกวันแน่ๆ เลย
ยามดึกกับปาร์ตี้สุดมันส์ที่ปาย ไม่ต้องอธิบายมาก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่จะอยู่ในห้วงคำนึงเสมอ (ขอหัวเราะหน่อย เพราะมันฮา..มากๆ)
ยามเช้าตรู่ ณ เมืองปาย กับบรรยากาศอันแสนสบาย ด้วยข้าวสวยร้อนๆ ราดผัดพริก (กินแต่เช้า) ตลาดเช้าที่ปายเป็นตลาดเล็กๆ ที่มีชาวบ้านออกมาขายของทั้งอาหาร กาแฟ และของพื้นบ้าน หากใครตื่นสายก็จะพลาดโอกาสนี้ ฉันซึมซับบรรยากาศยามเช้าอันแสนสงบ และประทับใจกับภาพพระเดินบิณฑบาตร อยากเก็บเวลานี้ในกล่องความทรงจำตลอดไป หากฉันมีเพนซิป อย่างดับเบิ้ลดอร์ในแฮร์รี่พอตเตอร์ก็คงดี เพราะถ้าคิดถึงคราใดและอยากกลับไปเยือนอีก ก็เขี่ยเส้นใยสีเงินที่มีความทรงจำ ณ เมืองปายออกมา แล้วร่องลอยไปสู่ห้วงความทรงจำนั้นได้ทุกเวลา...
เชื่อมั้ยว่าเพื่อนร่วมทริปปายทุกคนก็คงคิดไม่ต่างจากฉันเท่าไรนักหรอก ฉันประทับใจมาก ประทับใจจริงๆ กับทุกเรื่องราว ระหว่างการเดินทางสู่ปายครั้งนี้ของฉัน จริงๆ อย่างที่พี่คนหนึ่งเคยบอกว่า ภาพถ่ายเป็นพันๆ ภาพก็ยังไม่เท่าการไปเยือนแค่ครั้งเดียว ขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่แสนดี เป็นครั้งแรกที่ฉันจำชื่อเพื่อนร่วมทริปได้ทุกคน ลองดูกันมั้ย : คุณแม่ (สิ), พี่แอน, สิ, น้องอาร์ม, น้าป๊อป, พี่หนู, พี่ต้น, พี่เอก, ฮั้ว (หมูน้อย), กุ้งยิ้ม, ปุ้ย (จังกึม), เดือน, ปู, อัญ, ยู, กุ้ง (ปาย), เอก4 (ในนามนายไข้ย้อย), ตากานต์, นายเชาๆ, สหายรัตน์, กุ้งฝอย, และเพื่อนที่มาต้อนรับ และยังมาส่งกลับกรุงเทพฯ ในวันแรกและวันสุดท้าย สหายทอมมี่ และ โยเย....ขอบคุณอย่างสุดซึ้งจากใจที่ช่วยกันสร้างประสบการณ์ดีๆ เพิ่มขึ้นใน